นโยบาย Made in Thailand ของภาครัฐเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ – VS Steel 1999

นโยบาย Made in Thailand ของภาครัฐเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ

สมาคมเหล็กลวดไทยขอให้รัฐบาล เร่งหามาตราการกระตุ้นการบริโภคเหล็กลวดเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตในประเทศ นโยบาย Made in Thailand ของภาครัฐเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ กำลังการผลิตในประเทศรวมกัน 2.6 ล้านตันต่อปี แต่ใช้กำลังการผลิตเพียง 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพราะมีการนำเข้าเหล็กลวดจากจีน เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย และรัสเซีย มาขายแข่งตัดราคากับผู้ผลิตภายในประเทศ ทางสมาคมฯ จึงอยากให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อให้ผู้ผลิตเหล็กลวดของไทยสามารถแข่งขันกับเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศได้

ข้อมูลนำเข้าเหล็กลวดจากต่างประเทศ ระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 มีการนำเข้าจากจีนมากที่สุด จำนวน 218,502 ตัน เพิ่มขึ้น 128% จากอินโดนิเซีย จำนวน 69,944 ตัน เพิ่มขึ้น 177% จากมาเลเซีย จำนวน 69,440 ตัน เพิ่มขึ้น 57% โดยเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่ผ่านมารัฐบาลออกมาตรการ Made in Thailand โดยให้โครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศมากขึ้นแต่ยังไม่เพียงพอ อยากให้รัฐกระตุ้นการส่งออกโดยพิจารณาลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมในการส่งออก ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าและพลังงานให้เหมาะสมเพื่อสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตจากต่างประเทศ นอกจากนี้อยากให้ขยายมาตรการ Made in Thailand ครอบคลุมไปถึงโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชนและให้ลงไปถึงการกำหนดให้ใช้วัตถุดิบต้นน้ำที่ผลิตได้จากในประเทศด้วย

นอกจากนี้ยังมีผู้นำเข้าบางรายได้นำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำโดยไม่ผ่านการขออนุญาตนำเข้าทั้งๆที่เป็นสินค้าควบคุมคุณภาพของทางภาครัฐและยังใช้วิธีการหลบเลี่ยงดารเสียภาษีอากรตอบโต้การทุ่มตลาดโดยใช้วิธีปรับลดธาตุคาร์บอนและเจืออัลลอยเพิ่มขึ้นแทน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเหล็กลวดคาร์บอนสูงเป็นการจงใจลบเลี่ยงการเสียภาษีรูปแบบหนึ่ง ทางสมาคมฯจึงอยากให้มีการผลักดันการบังคับใช้สินค้า มอก. เพราะสินค้าเหล็กลวดเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงสร้างทั้งขนาดเล็กและใหญ่หากเกิดการเสียหายจะส่งผลกระทบกับประชาชนและประเทศในวงกว้าง

แหล่งที่มาข้อมูล: สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย